วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ขั้นตอนการอารตี และวัสดุอุปกรณ์



การอารตีนั้น 
หรือในทางศาสนพิธีจะเรียกว่า นีราชนมฺ ถ้าพอจะเทียบกับพิธีพราหมณ์ของฝ่ายไทยคือการเวียนเทียนสมโภช ในตอนท้ายของพิธีครับ สายการ 
นับถืออยู่ที่ว่าแต่ละคนนับถือตามสายคัมภีร์ใด และเป็นนิกายใด เพราะ การทำอารตีจะมีพิธีที่ผิดแผกกันไปตามแต่สายของตนเองครับ 
การอารตี หรือนีราชนมฺ ตามประเพณีฮินดูอาจแบ่งกว้างๆออกได้เป็น 2 ลักษณะครับ 

1.สนฺธยารตี คือการอารตี ที่กระทำในเวลาสนธยา ได้แก่ เวลาเช้า กับพลบค่ำ ทางเทวสถานเทพมณเฑียร ฮินดูสมาช กำหนดให้เป็นเวลา07.00น.และ 19.00น.ของทุกวัน การสนธยาอารตีจะต้องกระทำในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งไป และมักจะกระทำหลังจากการชุมนุมสวดมนตร์หรือการทำสันธโยปัสนา(ภาวนาประจำวัน) ส่วนการกระทำในบ้านเรือนซึ่งมีการประดิษฐานเทวรูป 

ได้มีความเห็นออกเป็นสองฝ่าย นักบวชสวามีบางรูปเห็นว่าไม่ควรทำ เพราะบ้านเป็นที่อาศัยของคฤหัสถ์ชนย่อมมีการกระทำบาปเนืองๆ แต่บางท่านเห็นว่าสามารถกระทำได้ แต่โดยทั่วๆไปถ้าหากมีสถานที่บูชาอันเฉพาะเป็น *** ส่วน ก็น่าจะสามารถกระทำได้ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าใครไม่มี สถานที่บูชาเฉพาะก็ไม่ควรกระทำพิธีอารตี ครับ เพียงจุดธูปไหว้ บุชา ธรรมดา เพียงพอแล้ว ของผมเป็นหิ้งโดยเฉพาะ สถานที่เป็น *** ส่วนจึงกระทำอารตี ทุกวันเช้าเย็นครับ แต่บางที ไม่มีเวลา ขี้เกียจ ก็ไม่ได้ ทำ 55+ 

2.การอารตี หลังการประกอบพิธี การอารตีประเภทนี้จะกระทำหลังจากการประกอบพิธีบูชาตามวาระโอกาสต่างๆ หรือหลังจากการสวดมนตร์ การชุมนุมสวดมนตร์ หรือการที่อาจารย์พราหมณ์นักบวชได้สวดอ่านคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ปุราณะต่างๆ รามายณะ ภควัทคีตา รามจริตมานัส เป็นต้น หรือการทำอภิเษกสมโภชนักบวช คุรุ สิ่งก่อสร้างต่างๆ หรือการต้อนรับผู้มาเยือน การต้อนรับเจ้าบ่าว นักบวช คุรุ(กระทำเบื้องหน้าผู้ที่เราต้อนรับ) ฯลฯ การอารตีเช่นนี้ วิธีการคล้ายแบบแรก แต่ไม่กำหนดระบุเวลา 


อุปกรณ์ 
1.ตะเกียงอารตี ตะเกียงอารตีมีหลายรูปแบบ แต่ตามประเพณีดั่งเดิมใช้ถาด รใส่ข้าวสาร ใบพลูหรือกลีบดอกไม้ หรือผงกำยานหรือกำยานเปียก 
(เพื่อไม่ให้ถาดใหม้)วางด้วยการบูรแท่งหรือก้อน ตะเกียงนี้เรียกว่า กรฺปูรฺอารตี จุดไฟที่การบูร อันนี้เป็นแบบโบราณประเพณี ถือว่าไฟจากการบูร 
เป็นไฟสะอาด มีกลิ่นหอม 
ประเภทอื่นๆ คือใช้ตะเกียงที่มีหลุมจำนวนที่นิยมคือ 5 หลุม ใช้สำลีปั้นก้อน ใช้เนยเหลว(ฆี)เป็นเชื้อเพลิง บางที ก็ใช้ 9 หลุม หรือมากกว่านั้น หรือใช้ชนิดหลุมเดียวก็ได้ หรือนำประทีบ 1 ดวงใส่ถาดก็ได้ ของผม ใช้9 หลุม เพราะ ใหญ่ดี 55+ และมีหลุมใหญ่เอาไว้ใส่ ผงสมุนไพรกำยานเปียก และการบูร 
2.ปัญจปาตร หรือถาดโลหะ ไว้รองรับตะเกียง 
3.ภาชนะใส่น้ำ ในที่นี้ หมายถึงหม้อครับ หรือสังข์ที่ใช้บรรจุน้ำได้ แต่สายศักติ ใช้ หม้อ ครับ สังข์ของนิกายอื่น 
4.ธูป ตามคติฮินดูใช้ 5 ดอก (เหมือนจำนวนประทีป) เพราะเลขห้า หมายถึง ธาตุ5 ตามคติฮินดู (ไฟ(อัคนิ) น้ำ(อาโป) ลม(วาโย) ดิน(ปฤถิวี) อวกาศ) 
5.ดอกไม้ 
6.ระฆัง (ฆันฏา) เอาที่ถือสั่นได้ของผมจะเอาระฆังของวัชระยานมาใช้ครับ อิอิ สวยดี ชอบเลยเอามาใช้ 

วิธีการ 
1.ก่อนทำให้อาบน้ำสนานกายก่อนเข้ามายังห้องพิธี แต่ในขณะอาบน้ำให้ทำจิตให้นิ่งและนึกถึงพระองค์ไว้ หรือสวดมนต์บทโศลกสั้นไปด้วยครับ อิอิ เป็นการรวบรวมจิต ครับ ก่อน ทำพิธี เราต้องมีสมาธิ หลังจากนั้น เข้าห้องพิธีให้เทน้ำจากหม้อเล็กน้อยในอุ้งมือขวา แล้วจิบน้ำจากโคนข้อมือขวา 3 ครั้ง เรียกว่าการอาจมานํ(เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ การอาจมานํนี้ กระทำก่อนการทำพิธีต่างๆรวมทั้งการสวดมนตร์ละภาวนา) 

2. เริ่มด้วยการจุดประทีปหน้าหิ้งเสมอ และถวายกำยานโคน เครื่องบูชาพร้อมใส่ถาดวางรอไว้ ทั้ง นม น้ำ และขนม ผลไม้ ดอกไม้ และเริ่มสวดมนตร์เลือกบทที่ชอบหรือสวดเป็นประจำ หรือบทที่บูชาพระอันประดิษฐาน ณ ที่นั้น ต่อหน้าที่บูชา ของผมเริ่มด้วยบทโศลกบูชา กาเณช แล้วไปที่องค์ประธานของผม คือ สมายัมปูรัม มารีอัมมัน 

3. เป่าสังข์สามครั้ง 


4. จุดธูปขึ้น เริ่มการอารตี โดยสั่นกระดิ่งในมือซ้าย มือขวาถือธูปวนไปรอบๆ เทวรูปตามเข็มนาฬิกา เริ่มที่พระคเณศก่อน(ถ้ามี) 
จากนั้นองค์ที่เป็นประธาน ขณะถวายธูปสวดมนตร์ของเทพองค์นั้น 

5.จุดตะเกียงอารตี เริ่มจากพระคเณศก่อน คัมภีร์นิตยฏรมฺ บันทึกว่า การอารตีให้เริ่มจากที่พระบาท พระอุระ พระพักตร์ วนที่องค์พระองค์ละ 9 รอบก็ได้ จนครบทุกองค์ ในขณะอารตีนั้น มือซ้ายสั่นระฆัง มือขวาถือตะเกียงอารตีครับ 

6. จากนั้นจึงค่อย เอามือทั้งสองโบกควันไฟศักดิ์สิทธิ์ เข้าสู่ตัวเอง โดยโบกเหนือไฟ แล้วแตะที่ใบหน้า ดวงตาหรือหน้าผาก โดยถือว่าเป็นพรที่พระเป็นเจ้าประทานให้ 

7. ถือดอกไม้(ถ้ามี)หรือพนมมือ กล่าวสวดมนตร์ หากสวดสันสกฤตไม่ได้ ให้อธิษฐานในภาษาไทย สวดขอพร และถวายดอกไม้นั้น และขอให้ 
พระเป็นเจ้าอภัยในโทษต่างๆที่เรากระทำ


ภาณุพงศ์ เผือกกันสี 22/7/55

1 ความคิดเห็น:

  1. เรียนคุณเจ้าของกระทู้ เนื่องจากหลายๆส่วนของบทความคุณ เป็นส่วนที่นำเนื้อหามาจาก บทความเรื่อง:"การอารตีแบบฮินดูโบราณ" ของอาจารย์คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง กรุณาใส่ชื่ออาจารย์คมฯ อ้างอิงด้วยครับ

    ตอบลบ